เสาเข็มไมโครไพล์ เรื่องรากฐานไว้ใจเรา ประสบการณ์มีมากกว่า10ปี บริษัทรับตอกเสาเข็มลพบุรี ทำงานโดยช่างมืออาชีพ ดูพื้นที่หน้างานฟรี บริการตอกเสาเข็ม ทีมงานมีคุณภาพ ทำงานด้วยความปลอดภัยและคุณภาพเสาเข็มได้มาตรฐาน รับตอกเสาเข็มลพบุรี ประสบการณ์มีมากกว่า 10 ปีจึงทำให้พนักงานทุกคนสามารถแนะนำกดเข็มหกเหลี่ยมลพบุรี และปฏิบัติงานให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและพนักงานทุกคนมีความรับผิดชอบแล้วจะทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาใช้บริการเราอีกแน่นอน
บริษัทตอกเสาเข็มลพบุรี
บริการตอกเสาเข็มลพบุรี
รับตอกเสาเข็มลพบุรี
เสาเข็มไมโครไพล์ราคาถูกลพบุรี
รับเหมาตอกเสาเข็มลพบุรี
กดเข็มหกเหลี่ยมลพบุรี
รับลงเสาเข็มลพบุรี
รับตอกเสาเข็มหกเหลี่ยมลพบุรี
ตอกเสาเข็มหกเหลี่ยมลพบุรี
บริการตอกเสาเข็มลพบุรี
รับตอกเสาเข็มราคาถูกลพบุรี
ตอกเสาเข็มราคาถูกลพบุรี
ตอกเสาเข็มในน้ำลพบุรี
ผู้รับเหมาตอกเสาเข็มลพบุรี
ติดต่อสายด่วน









รั้วคอนกรีต รั้วสำเร็จรูป รั้วลวดหนาม รั้วคาวบอย อยากล้อมรั้วคุณภาพดี ราคาถูก
ยินดีให้บริการครับระเมินราคา / ดูหน้างาน ฟรี ช่างคุยง่าย
การตอกเสาเข็ม สำคัญอย่างไร มาดูกัน กับ ข้อควรรู้เกี่ยวกับการลง “เสาเข็ม”
“การตอกเสาเข็ม” เคยสงสัยไหมคะว่ามันคืออะไรกันแน่ มีความสำคัญอย่างไร เวลาที่จะต่อเติมบ้าน หรือสร้างบ้าน บริการตอกเสาเข็มลพบุรี แล้วเราควรต้องลง กี่ต้น กี่กลุ่ม หรือว่าจำเป็นต้องลงลึกขนาดไหนถึงจะพอ แล้วเวลาที่ผู้รับเหมาแนะนำควรเชื่อถือหรือไม่ ? ฉะนั้นก่อนอื่นเราจึงต้องรู้จักก่อนว่าเสาเข็มคืออะไร เพราะ “บ้านที่มั่นคง ต้องมีฐานรากที่แข็งแรง”ใช่ไหมล่ะคะ ! เสาเข็ม คือชิ้นส่วนล่างสุดของโครงสร้างบ้าน (โดยปกติแล้วทั่วไปมักจะเรียกรวมกับฐานรากว่าเป็นฐานรากแบบมีเสาเข็ม) ซึ่งนำไปฝังไว้อยู่ในดินเพื่อจะได้ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักของบ้านทั้งหลัง เน้นว่าเป็นการรับน้ำหนักบ้านทั้งหลัง ฉะนั้น เสาเข็มย่อมเป็นตัวบ้านจะมั่นคงแข็งแรง หรือจะค่อยๆทรุดตัวลงในอนาคต
คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง อ่านได้เลย ข้อควรรู้ก่อน สร้างบ้านด้วยตัวเอง
ความสำคัญของเสาเข็ม
หากว่าบ้านของเราตั้งอยู่บนพื้นดินเฉยๆ น้ำหนักของตัวบ้านก็จะลงไปกดผิวดินให้ทรุดตัวลงไปเรื่อยๆ ตอกเสาเข็มในน้ำลพบุรี แต่ถ้ามีเสาเข็มก็จะช่วยทำให้เกิดแรงต้านน้ำหนักของบ้านเพื่อช่วยชะลอการทรุดตัว ทั้งนี้แรงต้านที่ว่าจะมาจากชั้นดิน 2 ส่วนคือ
แรงเสียดทานของดินชั้นบน ถ้าใครนึกภาพไม่ออก ลองคิดว่าเราเอาไม้ปักลงในดิน หากปักลึกลงไปในระดับหนึ่งแล้วจะเริ่มมีความฝืดเกิดขึ้นทำให้กดลงได้ยาก สาเหตุเป็นเพราะถูกต้านด้วยแรงเสียดทานของดิน ส่วนเสาเข็มก็พึ่งแรงเสียดทานของดินชั้นบนเป็นตัวช่วยพยุงรับน้ำหนักบ้านไม่ให้ทรุดหรือเอียงได้เช่นเดียวกัน แรงดันจากชั้นดินแข็ง หากกรณีที่เสาเข็มยาวลึกลงไปจนถึงชั้นดินแข็งก็เท่ากับว่า เสาเข็มวางอยู่บนชั้นดินแข็งซึ่งเป็นตัวรับน้ำหนักทั้งหมดของบ้านโดยตรง ทำให้โอกาสที่จะทำให้บ้านทรุดตัวลงน้อยและช้ามาก
ความลึกของเสาเข็มที่เหมาะสม
ตามปกติแล้วเรื่องของการลงเสาเข็มของบ้านควรลงให้ยาวลึกลงไปจนถึงชั้นดินแข็ง รับตอกเสาเข็มไมโคไพล์ลพบุรี ซึ่งจะทำให้ได้แรงต้านทั้ง 2 ส่วนเพื่อช่วยพยุงให้บ้านเกิดความมั่นคงแข็งแรง แต่ถ้าหากวาบ้านหลังไหนที่มีเสาเข็มยาวลงไปไม่ถึงชั้นดินแข็ง ก็หมายความว่าน้ำหนักของบ้านทั้งหลังมีแค่เพียงแรงเสียดทานของดินชั้นบนรองรับเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องทำใจว่าอาจจะเกิดการทรุดตัวลงเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะยิ่งเป็นดินที่เพิ่งถมมาไม่เกิน 1-2 ปี หรือที่ดินที่เคยเป็นบ่อหรือบึงมาก่อน แรงเสียดทานก็จะยิ่งน้อย อัตราการทรุดตัวก็จะยิ่งเร็วตาม ส่วนจะต้องลงเสาเข็มลึกเท่าใดเพื่อให้ถึงชั้นดินแข็งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ หากโชคดีที่ดินแข็งอยู่ตื้น ก็ไม่จำเป็นต้องลงเสาเข็มลึกมาก หรือถ้ายิ่งโชคดีกว่านั้นคือ ดินชั้นบนมีความแข็งมากจนตอกหรือเจาะเสาเข็มไม่ลง (เช่นพื้นที่ที่อยู่ติดภูเขา) ก็อาจใช้แค่ฐานรากแบบไม่ต้องมีเสาเข็มเลยก็ได้
อย่างไรก็ดีหากว่าซื้อเป็นบ้านจัดสรรซึ่งเจ้าของบ้านส่วนมากมักจะต้องมีการต่อเติมเพิ่ม เช่น การต่อเติมห้องครัวและโรงจอดรถ นั้น คำถามที่เจ้าของบ้านมักจะสงสัยก็คือในส่วนต่อเติมที่ว่านี้จำเป็นต้องลงเสาเข็มถึงชั้นดินแข็งด้วยหรือ ไม่ ?? เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่แยกออกมาจากบ้านและไม่ได้ใช้งานหนักเสียเท่าไหร่ ซึ่งถ้าตอบตามทฤษฎีแน่นอนว่าควรลงเสาเข็มให้ถึงชั้นดินแข็งย่อมเกิดผลดีกว่าแน่นอน แต่ในทางปฎิบัติอาจจะไม่สามารถทำได้เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ ทั้งการลงเสาเข็มให้ลึกถึงชั้นดินแข็ง บางครั้งต้องใช้พื้นที่เยอะหรือเครื่องมือขนาดใหญ่ แถมยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการค่อนข้างสูงอีกด้วย ดังนั้นจึงจบลงที่การลงด้วยเสาเข็มสั้นแทน โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นเสาเข็มขนาดความยาวที่ไม่เกิน 3 เมตร ซึ่งชั้นดินแข็งในกรุงเทพฯทั่วไปจะอยู่ลึกประมาณ 17-23 เมตรเท่านั้น เมื่อเป็นอย่างนี้จึงควรเตรียมใจและยอมรับการทรุดตัวในส่วนที่ต่อเติมในอนาคตไว้ล่วงหน้าได้เลย
สำหรับพื้นที่ในเมืองใหญ่ๆซึ่งมีที่ดินค่อนข้างจะคับแคบนั้น การลงเสาเข็มยาวลึกอาจจะทำได้ยาก แต่ทั้งนี้ก็ยังพอมีทางออกด้วยการเลือกเสาเข็มอีกชนิดที่เรียกว่า “เสาเข็มสปัน (SPUN MICRO PILE) ผลิตจากการปั่นคอนกรีตด้วยความเร็วสูงจึงทำให้แข็งแรงกว่าเสาเข็มโดยทั่วไป อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการในพื้นที่แคบได้ดี เนื่องจากอุปกรณ์มีขนาดที่เล็กมาก เสาเข็มสปันจะมีความยาวที่ประมาณ 1.5 เมตร แต่สามารถที่จะนำมาต่อกันเพื่อให้ลึกลงไปถึงชั้นดินแข็งได้ และส่วนของหน้าตัดเสาเข็มที่มีลักษณะกลวง ทำให้ดินไหลออกทางรูกลวงเวลาตอกลงไปจึงช่วยลดแรงสั่นสะเทือน แต่อย่างไรก็ตาม เสาเข็มสปันจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เจ้าของบ้านบางรายอาจสู้ราคาไม่ไหว สุดท้ายก็หันไปเลือกเสาเข็มสั้นมาทดแทน
พื้นที่จำกัด สามารถลงเสาเข็มได้ลึกแค่ไหน?
ส่วนใหญ่พื้นที่ต่อเติมนั้น ผู้รับเหมาหรือช่างจะแนะนำให้ใช้เข็มสั้น เพื่อความง่ายต่อการทำงาน กดเข็มหกเหลี่ยมลพบุรี ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเกิดการทรุดตัวได้เร็ว เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการตอกเสาเข็มที่ลงลึกถึงชั้นดินแข็ง ถ้าหากว่าพื้นที่มีขนาดจำกัดการใช้เข็มยาวอาจจะไม่สะดวก และยังต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีทางออก เพราะยังมีเสาเข็มอีกชนิดที่เรียกว่า “เสาเข็มสปัน” ซึ่งผลิตโดยการปั่นคอนกรีตด้วยความเร็วสูงจึงแข็งแรงกว่าเสาเข็มปกติทั่วไป อีกทั้งยังสามารถตอกในพื้นที่แคบได้เนื่องจากอุปกรณ์ที่นำมาใช้ตอกมีขนาดเล็กมาก แถมเสาเข็มสปันมีความยาวประมาณ 1.5 เมตร เมื่อนำมาตอกจึงตอกได้ลึกถึงชั้นดินแข็งได้ ประกอบหน้าตัดเสาเข็มที่กลวง ทำให้ดินไหลออกทางรูกลวงเวลาตอกจึงช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี ส่วนข้อเสียคือเสาเข็มสปันมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงทำให้เจ้าของบ้านไม่นิยมเลือกใช้เท่าไหร่นัก
- ปัจจัยที่ต้องคำนึง หากเลือกใช้เป็นเสาเข็มสั้นในการต่อเติมบ้าน
- เสาเข็มสั้นจะอาศัยแรงเสียดทานระหว่างผิวของเสาเข็มกับดินในการรับน้ำหนักอาคาร ฉะนั้นยิ่งเสาเข็มมีจำนวนมากและตอกลึกมากก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มผิวสัมผัสที่ช่วยรับน้ำหนักได้มากขึ้น (ค่าใช้จ่ายก็สูงมากขึ้นตาม) ทั้งนี้เสาเข็มสั้นมีความยาวให้เลือกตั้งแต่ 1 ถึง 6 เมตร ซึ่งเสาเข็มสั้นแต่ละต้น หากจำเป็นต้องนำมาวางใกล้กัน (อาทิเช่น เสาเข็มส่วนต่อเติมที่ต้องวางใกล้จุดตำแหน่งอาคารเดิม) ตามหลักแล้วควรลงห่างกันไม่ต่ำกว่า 3 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลาง เช่น ถ้าเป็นเสาเข็มหน้าตัดที่ 60 ซม. ควรวางห่างกันไม่ต่ำกว่า 180 ซม.เพราะหากวางระยะที่น้อยเกินไป แรงเสียดทานระหว่างดินในจุดนั้นอาจจะช่วยรับน้ำหนักได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
- ก่อนที่จะเริ่มทำการก่อสร้างควรจะต้องบดอัดดินให้แน่นมากที่สุดเพื่อช่วยชะลอการทรุดตัวแต่มีอุปสรรคสำคัญคือ ดินแต่ละพื้นที่ย่อมมีความแข็งอ่อนไม่เท่ากัน บางแห่งมีดินแข็งมากจนสามารถสร้างฐานรากมารองรับบ้านทั้งหลังโดยไม่จำเป็นต้องมีเสาเข็ม ซึ่งสำหรับพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ ควรต้องมีเสาเข็มมารองรับถึงจะปลอดภัย และควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่เคยเป็นบ่อหรือบึงมาก่อน
- วัสดุที่นำมาใช้ต่อเติมควรเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบามากที่สุด เช่น ใช้โครงสร้างเบา, เคาน์เตอร์ครัวแบบเบา และต้องระวังไม่ให้เกิดการทรุดเอียง โดยการกระจายน้ำหนักออกไปให้สม่ำเสมอ ไม่จัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักมากๆไว้ด้านเดียวกัน
- ในส่วนของโครงสร้างต่อเติมจำเป็นที่จะต้องแยกจากโครงสร้างเดิมโดยสิ้นเชิง เพื่อให้การทรุดตัวสามารถเป็นอิสระต่อกัน และป้องกันการดึงรั้งโครงสร้างเก่าจนทำให้เกิดการทรุดตัวในช่วงของรอยต่อพื้น ผนัง ระหว่างอาคารเดิมกับส่วนต่อเติม จึงควรใช้แผ่นโฟมกั้นและยาแนวรอยต่อด้วยซิลิโคน
เสาเข็มแบบไหนถึงเหมาะกับบ้านใหม่ ?
ถ้ากรณีที่สร้างบ้านใหม่ไม่เกิน 2 ชั้น มักจะเลือกใช้เป็นเสาเข็มคอนกรีตแบบเข็มตอก เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด และเป็นแบบเสาเข็มหน้าตัดรูปตัว (I) ความยาวปานกลาง อยู่ระหว่าง 12 – 16 เมตร ซึ่งเข็มในลักษณะแบบนี้ส่วนมากจะอาศัยแรงฝืดของดินเป็นตัวรองรับน้ำหนักอยู่ แต่ทว่าเป็นอาคารที่ใหญ่มากขึ้นจำเป็นต้องใช้เสาเข็มยาวขึ้น ตั้งแต่ 18 – 24 เมตร แล้วให้ทำการถ่ายน้ำหนักน้ำหนักลงสู่ชั้นดินแข็งโดยตรง เสาเข็มอีกประเภทหนึ่งที่ใช้กับบ้านพักอาศัย คือ เข็มเจาะ ซึ่งจะเป็นเข็มเจาะระบบเล็ก สามารถที่จะเคลื่อนย้ายเครื่องมือเข้าไปในพื้นที่แคบๆ ทำการเจาะดิน หล่อเข็มโดยไม่ให้เกิดแรงสั่นสะเทือนกับโครงสร้างอาคาร/ฐานรากใต้ดินของเพื่อนบ้านละแวกข้างเคียง (ตามบทเทศบัญญัติในบางพื้นที่ได้กำหนดการใช้ระบบเข็มเจาะกรณีที่เป็นอาคารสร้างใหม่ห่างจากอาคารเดิม/เพื่อนบ้านน้อยกว่า 30 เมตร) เข็มที่หล่อจากระบบนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางได้ตั้งแต่ 30 – 80 เซนติเมตร ส่วนความยาวเจาะได้ลึกถึงระดับ 24 เมตรเลยทีเดียว
ราคาของเสาเข็ม
หากเป็นเข็มตอกจะมีราคาที่ประหยัดกว่าเข็มเจาะถึง 2 – 3 เท่า เช่น ถ้าเข็มตอกราคา 8,000 บาท/ต้น เข็มเจาะจะราคาสูงถึง 20,000 – 25,000 บาท ส่วนการรับน้ำหนักก็อยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นไม่ใช่คำนึงแค่เสาเข็มเพียงอย่างเดียวต้องคำนึงถึงเรื่องรูปแบบฐานราก เพราะความเป็นจริงฐานรากและเสาเข็มคือชุดเดียวกัน หรือเรียกรวมกันว่า “ระบบฐานราก-เสาเข็ม” การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆทั้งส่วนที่เป็นส่วนต่อเติมและสภาพใต้ดิน เช่น การเลือกใช้ฐานเข็มแบบปูพรมในการต่อเติมโรงจอดรถ ข้อดีก็คือ ระบบรับน้ำหนักจะถูกกระจายออกไปเท่ากันช่วยลดความเสี่ยงที่พื้นจะแตกร้าวได้ แต่ก็มีข้อจำกัดเช่น ถ้าใต้ดินมีการเดินงานระบบขวางไว้ก็ไม่สามารถทำได้ จึงควรเปลี่ยนมาเลือกใช้ฐานเข็มแบบกลุ่ม หรือการใช้เป็นแบบเทพื้นบนดิน (Slab on Ground) แทน เป็นต้น
สรุปได้ว่าไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านใหม่ หรือการต่อเติมบ้านเรื่องของเสาเข็มเป็นอีกเรื่องที่สำคัญไม่ควรละเลยมากที่สุดเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ เพราะหากตัดสินใจไม่เหมาะสมย่อมเกิดผลกระทบต่อความแข็งแรงของโครงสร้างบ้านในระยะยาวอย่างแน่นอนค่ะ

การคมนาคม
ลพบุรีอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวก สามารถเดินทางสู่ตัวจังหวัดได้หลายวิธี
- ทางรถไฟ มีทางรถไฟสายเหนือ (กรุงเทพมหานคร-เชียงใหม่)
ในระบบรางคู่ถึงตัวจังหวัด และผ่านไปสู่ภาคเหนือ และในอนาคตอันใกล้กำลังจะมีการดำเนินการสร้างทางรถไฟรางคู่ต่อจากลพบุรีขึ้นไปทางเหนือ (ลพบุรี-ปากน้ำโพ)
ทางรถยนต์ (การเดินทางจากจังหวัดต่างๆ มายังจังหวัดลพบุรี)
ใช้ถนนพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1 จาก กรุงเทพ-สระบุรี-ถึงลพบุรี เป็นระยะทาง 153 กิโลเมตร
ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 311 (แยกต่างระดับสิงห์บุรีใต้)เพื่อเข้า ทางอ.ท่าวุ้ง-ลพบุรี
ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 334 ข้ามสะพานต่างระดับอ่างทอง แล้วตรงไปจะเข้าทางหลวงหมายเลข 3267 ขับมาเรื่อยๆจะพบสี่แยก ให้เลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงหมายเลข 3196 เพื่อมุ่งหน้าสู่ อ.บ้านแพรก-ลพบุรี
- จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 (ลพบุรี-ปทุมธานี) หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 32 จาก อยุธยา-อ.บางปะหัน(ข้ามแยกต่างระดับบางปะหัน) ไปตาม ทางหลวงหมายเลข 347 จนถึง อ.มหาราช (ก็สิ้นสุดทางหลวงหมายเลข 347) แล้วไปเชื่อมทางหลวงหมายเลข 3196 ผ่าน อ.บ้านแพรก เข้าสู่ ลพบุรี
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 สระบุรี-อ.เฉลิมพระเกียรติ-แยกพุแค-อ.พระพุทธบาท-ลพบุรี
มีอยู่ 2 เส้นทาง ดังนี้
- เส้นทางที่1 ใช้ทางหลวงหมายเลข 2068 ผ่าน อ.ขามทะเลสอ เข้าทางหลวงหมายเลข 2148 ผ่าน อ.ด่านขุนทด แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 201(สีคิ้ว-ชัยภูมิ) จะถึงสามแยก แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2256 ผ่านอ.ท่าหลวง แล้วเชื่อมถนนสุรนารายณ์ ให้ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 205 จะพบสี่แยกม่วงค่อม แล้วตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 205 ผ่านอ.โคกสำโรง จะพบสี่แยกไปรษณีย์(อ.โคกสำโรง) ให้ตรงไปเข้าถนนพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งหน้าสู่ ลพบุรี
- เส้นทางที่2 จากนครราชสีมา ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (AH12) ผ่านอ.สูงเนิน-อ.สีคิ้ว-อ.ปากช่อง-อ.มวกเหล็ก-อ.แก่งคอย ขับมาเรื่อยๆ จะพบสะพานต่างระดับแยกบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี เบี่ยงซ้ายใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 362 (เลี่ยงเมืองสระบุรีด้านทิศตะวันออก) ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 362 จนถึงต่างระดับแพะโคก(ด้านทิศเหนือ) แล้วเลี้ยวขวาไปตาม ทางหลวงหมายเลข 1 เพื่อเข้าถนนพหลโยธินสาย สระบุรี-ลพบุรี
- จากจังหวัดชัยภูมิ
จากชัยภูมิ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 จนถึง อ.จัตุรัส เลี้ยวขวาที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติเทศบาลจัตุรัส เข้าทางหลวงหมายเลข 2179 ถึง อ.บำเหน็จณรงค์ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2069 จนถึง สี่แยกทางหลวงหมายเลข 205 (ถนนสุรนารายณ์) เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 205 ผ่าน อ.เทพสถิตย์-อ.ลำสนธิ แล้วเข้าสู่ สี่แยกอ.ชัยบาดาล แล้วตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 205 มุ่งหน้าสู่ลพบุรี
จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 (ถนนคชเสนีย์) ผ่าน อ.หนองไผ่-อ.วิเชียรบุรี-อ.ศรีเทพ เมื่อผ่านอ.ชัยบาดาล ตรงมาจะพบสี่แยก ม่วงค่อม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 205 มุ่งหน้าสู่ อ.โคกสำโรง-ลพบุรี
มีอยู่ 4 เส้นทาง ดังนี้
- เส้นทางที่1 จากจังหวัดนครสวรรค์ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (AH1-AH2) ผ่าน อ.พยุหะคีรี-ผ่านสี่แยกเข้าอุทัยธานี-ผ่านสามแยกหลวงพ่อโอ-ชัยนาท-อ.อินทร์บุรี- เมื่อเข้าสิงห์บุรี จะพบทางแยกต่างระดับ(แยกต่างระดับสิงห์บุรีใต้) ให้เลี้ยวซ้าย ออกไปตามทางหลวงหมายเลข 311 เพื่อไปอ.ท่าวุ้ง-ลพบุรี
- เส้นทางที่2 จากจังหวัดนครสวรรค์ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (AH1-AH2) ผ่าน อ.พยุหะคีรี-ผ่านสี่แยกเข้าอุทัยธานี-ผ่านสามแยกหลวงพ่อโอ ขับมาเรื่อยๆจะพบสะพานต่างระดับ(แยกเข้าชัยนาท) ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธินAH1)ผ่าน อ.ตาคลี-อ.ตากฟ้า-อ.หนองม่วง-อ.โคกสำโรง แล้วมุ่งหน้าสู่ลพบุรี
- เส้นทางที่3 จากจังหวัดนครสวรรค์ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (AH1-AH2) ผ่าน อ.พยุหะคีรี-ผ่านสี่แยกเข้าอุทัยธานี-ผ่านสามแยกหลวงพ่อโอ ขับมาเรื่อยๆจะพบสะพานต่างระดับ(แยกเข้าชัยนาท) ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธินAH1) ขับมาตามทางหลวงหมายเลข 1 เรื่อยๆจะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3196 (เลียบคลองชลประทาน) ผ่านทางลอดใต้สะพาน (ใต้ทางหลวงหมายเลข11) ตรงไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3196 จะเข้าสู่ บ้านจันเสน-ผ่านสี่แยกเข้าอ.บ้านหมี่ ให้ตรงไป มุ่งหน้าสู่ ลพบุรี
- เส้นทางที่4 จากจังหวัดนครสวรรค์ มาตามถนนพหลโยธิน จะพบกับสี่แยกค่ายจิรประวัติ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3004 (จิรประวัติ-ท่าตะโก) ผ่านตลาดสถานีรถไฟนครสวรรค์ มาตามทางหลวงหมายเลข 3004 เรื่อยๆจะพบกับสามแยก(ก่อนถึงอ.ท่าตะโก) แล้วเลี้ยวขวามาตาม ทางหลวงหมายเลข 1145 จนถึง 3 แยกหอนาฬิกาอ.ตากฟ้า แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธินAH1 เพื่อไป จังหวัดลพบุรี
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางคมนาคมสายสำคัญซึ่งตัดผ่านจังหวัดข้างเคียง คือ เส้นทางรถไฟสายอีสาน และทางหลวงแผ่นดินหมายเลขที่ 2 (ถนนมิตรภาพ) ผ่านจังหวัดที่มีเขตติดต่อกันคือจังหวัดสระบุรี และยังมีถนนสายเอเชียตัดผ่านจังหวัดที่มีเขตติดต่อกันคือจังหวัดสิงห์บุรี
ถนนสายสำคัญในจังหวัด
ระยะทางจากอำเภอเมืองลพบุรีไปยังอำเภอต่าง ๆ
- อำเภอท่าวุ้ง ระยะทาง 15 กิโลเมตร
- อำเภอบ้านหมี่ ระยะทาง 32 กิโลเมตร
- อำเภอโคกสำโรง ระยะทาง 35 กิโลเมตร
- อำเภอพัฒนานิคม ระยะทาง 51 กิโลเมตร
- อำเภอหนองม่วง ระยะทาง 54 กิโลเมตร
- อำเภอสระโบสถ์ ระยะทาง 65 กิโลเมตร
- อำเภอโคกเจริญ ระยะทาง 77 กิโลเมตร
- อำเภอท่าหลวง ระยะทาง 83 กิโลเมตร
- อำเภอชัยบาดาล ระยะทาง 97 กิโลเมตร
- อำเภอลำสนธิ ระยะทาง 120 กิโลเมตร
ระยะทางจากจังหวัดลพบุรีไปยังจังหวัดใกล้เคียง
- ลพบุรี-สิงห์บุรี ระยะทาง 33 กิโลเมตร
- ลพบุรี-อ่างทอง ระยะทาง 45 กิโลเมตร
- ลพบุรี-สระบุรี ระยะทาง 46 กิโลเมตร
- ลพบุรี-ชัยนาท ระยะทาง 86 กิโลเมตร
- ลพบุรี-อยุธยา ระยะทาง 91 กิโลเมตร
- ลพบุรี-นครสวรรค์ ระยะทาง 129 กิโลเมตร
- ลพบุรี-กรุงเทพฯ ระยะทาง 153 กิโลเมตร
- ลพบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 195 กิโลเมตร
- ลพบุรี-ชัยภูมิ ระยะทาง 230 กิโลเมตร
- ลพบุรี-เพชรบูรณ์ ระยะทาง 236 กิโลเมตร